สามารถแยกประโยชน์ของการประกันชีวิตได้เป็น 3 ระดับ คือ 1. ประโยชน์ต่อบุคคลและครอบครัว 2. ประโยชน์ต่อธุรกิจ 3. ประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ
ประโยชน์ต่อบุคคลและครอบครัว ก. ประโยชน์ต่อบุคคลและครอบครัว การประกันชีวิตมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านการเงินให้แก่บุคคลและครอบครัว สร้างนิสัยการออมทำให้ มีเงินกองทุนไว้ใช้ในยามจำเป็น ก่อให้เกิดความมั่นคงความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งจะแยกเป็นรายละเอียดได้ดังนี้ ประโยชน์ในด้านให้ความคุ้มครอง เมื่อหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต สมาชิกทั้งหมดย่อมประสบกับความเดือดร้อน ทางการเงิน แต่ถ้าหัวหน้าครอบครัวทำประกันชีวิตไว้ ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังก็จะไม่เดือดร้อน เนื่องจากเงินก้อน หนึ่งที่ได้รับจากการประกันชีวิตจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆในทางการเงินได้ 1) ช่วยปลดเปลื้องภาระครั้งสุดท้ายของชีวิต เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าพิธีกรรม เป็นต้นต่างๆ หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว 2) ช่วยให้ภรรยาที่เป็นหม้ายมีเงินเลี้ยงชีพไปจนตลอดชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น 3) ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในความอุปการะมีเงินก้อนพอที่จะแก้ไขปัญหาของตนไปได้ระยะหนึ่ง และรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้รับประ โยชน์เพื่อป้องกันการจับจ่ายใช้สอยไปในทางสุรุ่ยสุร่ายในกรณีที่ผู้รับประโยชน์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 4) สร้างทุนการศึกษาให้กับบุตร 5) ช่วยให้มีเงินก้อนสำหรับปลดเปลื้องภาระหนี้สิน 6) กรณีที่ผู้เอาประกันได้รับอุบัติเหตุ ถ้าหากมีการประกันอุบัติ-เหตุควบคู่กับการประกันชีวิตก็จะมีเงินสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาล หรือถ้าถึงกับทุพพลภาพถาวรจนไม่อาจประกอบอาชีพต่อไปได้ก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงชีพ ทำให้ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่น 7) ช่วยแบ่งเบาภาระการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการนำเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายในปีภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ ทั้งนี้เฉพาะกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป และออกโดยบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น
ข. ประโยชน์ในด้านการออม 1) เป็นการเก็บออมที่สม่ำเสมอเพราะมีเงื่อนไขและสัญญาต่อกันระหว่างผู้เอาประกันกับผู้รับประกัน เมื่อถึงกำหนดผู้รับประ กันจะมีใบเตือนการชำระเบี้ยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือมีพนักงานคอยให้ความสะดวกโดยบริการเก็บเงินถึงบ้านเป็นต้น 2) มีเงินก้อนไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยสามารถกู้ยืมมาใช้ได้เมื่อกรมธรรม์มีอายุ 2-3 ปีขึ้นไป 3) มีเงินก้อนสำหรับกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนยามชรา กองทุนเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการสมรส กองทุนปรับปรุงฐานะครอบครัว กองทุนเพื่อดำเนินธุรกิจอิสระ กองทุนเพื่อพิทักษ์ธุรกิจ ฯลฯ 4) ปลูกฝังให้เกิดนิสัยประหยัด รู้จักเก็บออมเพื่อให้ครอบครัวมีฐานะเป็นปึกแผ่นมั่นคง
5) ปลูกฝังให้เกิดความรักความรู้สึกรับผิดชอบต่อครอบครัวและทำให้ครอบครัว มีโครงการทางการเงินที่สมบูรณ์
ค. ประโยชน์ในด้านการลงทุน 1) ไม่ต้องลงทุนก้อนใหญ่ซึ่งไม่เป็นการขัดกับค่าครองชีพประจำวัน 2) มีหลักประกันอย่างสมบูรณ์ว่าต้นทุนจะไม่สูญหายเพราะบริษัทประกันชีวิตเป็นผู้รับผิดชอบต่อการลงทุนและบริษัทได้ รับอนุญาตให้นำไปลงทุนได้เฉพาะกิจการที่มั่นคงเท่านั้น 3) ได้รับเงินปันผลตามสมควร หมายความว่า การประกันบางประเภท เช่น แบบสะสม-ทรัพย์ ถ้าผู้เอาประกันอายุไม่มาก เงินที่ได้รับเมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดมักจะมากกว่าจำนวนเบี้ยประกันที่ส่งรวมกันทั้งหมด การประกันบางประเภท ได้กำหนดไว้ว่า ผู้เอาประกันจะได้รับเงินปันผลถ้าหากบริษัทมีกำไร 4) เป็นหลักทรัพย์ที่แน่นอนไม่ว่าจะเป็นกรณีอยู่ครบกำหนดหรือเสียชีวิตระหว่างสัญญาเพียงแต่ชำระเบี้ยประกันให้ตลอดเท่านั้น
ประโยชน์ต่อธุรกิจ การประกอบธุรกิจใดๆ ก็ตาม ผู้บริหาร ผู้ใช้แรงงาน ตลอดจนหุ้นส่วนของบริษัทเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกอบธุรกิจ ทั้งในด้านการวางแผน การผลิตสินค้า ตลอดจนความเชื่อถือในผู้ถือหุ้นของบริษัทซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อตัวสินค้าของบริษัท หาก ต้องสูญเสียพวกเขาเหล่านี้ไปแม้เพียงคนเดียวก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทได้ การประกันชีวิต จึงมีส่วนช่วยส่งเสริมธุรกิจอย่างมาก กล่าวคือ
ก. สร้างศรัทธาด้านการเงิน การประกันชีวิตช่วยคุ้มครองธุรกิจไม่ให้ได้รับผลกระทบในด้านการเงินและศรัทธานิยม อันเนื่องมาจากความมรณะของผู้เป็นเจ้าของ ความเจริญของธุรกิจย่อมขึ้นอยู่กับจำนวนเงินทุนที่จะใช้ในการดำเนินงาน และความสามารถของผู้เป็นเจ้าของ ความมรณะของเจ้าของธุรกิจอาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักได้ เจ้าหนี้ที่ขาดความเชื่อมั่น ในความเป็นอยู่ของธุรกิจนั้นอาจไม่ยอมให้สินเชื่อหรือ ยืมเงินเพิ่มขึ้นหรือไม่ยอมขยายระยะเวลาในการให้กู้ยืมออกไป ค่าความนิยมของธุรกิจอาจเสื่อมลง การดำเนินธุรกิจอาจไม่ราบรื่น และอาจต้องเลิกล้มไปในที่สุด แต่ถ้าเจ้าของกิจการ ได้ทำประกันชีวิตไว้ เงินที่บริษัทประกันชีวิตจ่ายให้สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ทำให้ธุรกิจสามารถประกอบการ ต่อไปได้ตามปกติ
ข. คุ้มครองบุคคลที่เป็นหัวใจสำคัญของงาน ความเจริญก้าวหน้าของธุรกิจอาจขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถหรือความชำนาญ ของบุคคลบางคนโดยเฉพาะ เช่น นักค้นคว้า นักวิจัยหรือนักบริหารธุรกิจขององค์การธุรกิจนั้น เป็นต้น หากองค์การธุรกิจ นั้นๆ มีการทำประกันชีวิตบุคคลที่เป็นหัวใจสำคัญของงานไว้ ถ้าบุคคลเหล่านี้เสียชีวิตก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ อีก ทั้งยังทำให้มีทุนสำหรับจ้างหรือฝึกบุคคลใหมขึ้นมาแทนได้
ค. คุ้มครองบุคคลที่เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น ตามปกติเมื่อหุ้นส่วนคนใดคนหนึ่งของห้างหุ้นส่วนถึงแก่มรณะ ห้างหุ้นส่วนนั้น ย่อมจะเลิกไป เงินส่วนที่เป็นของผู้ที่ถึงแก่มรณะต้องคืนให้แก่ทายาทของผู้นั้น ถ้าหุ้นส่วนคนอื่นๆ ต้องการให้ห้าง หุ้นส่วนดำเนินกิจการต่อไปก็ต้องหาเงินมาจ่ายแก่ทายาทของหุ้นส่วนผู้ถึงแก่มรณะ แต่ถ้าภาคี (ผู้มีส่วน) ที่เข้าร่วมใน หุ้นส่วนมีการประกันไว้ก็สามารถนำเงิน จากการเอาประกันชีวิตนั้นมาซื้อส่วนของหุ้นส่วนที่ถึงแก่มรณะ และยังมีทุนรอน ที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจนั้นๆเจริญก้าวหน้าขึ้นอีกด้วยและในกรณีที่บริษัท จำกัดมีผู้ถือหุ้นเพียงไม่กี่คน แต่ละคนถือหุ้นไว้เป็น จำนวนมาก การบริหารงานดำเนินไปได้ก็โดยอาศัยความร่วมมือในหมู่ผู้ถือหุ้นนี้ ฉะนั้นหากผู้ถือหุ้นคนใดถึงแก่มรณะทายาท อาจขายหุ้นให้แก่บุคคลภายนอกทำให้ผิดเจตนารมยของบริษัท และทำให้การบริหารงานของบริษัทต้องหยุดชะงัก ดังนั้นผู้ถือหุ้นอาจตกลงกันจัดให้มีการประกันชีวิตเพื่อนำเงินนั้นมาซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นบริษัทที่ถึงแก่มรณะเพื่อจะได้โอนหุ้นให้ แก่ผู้ถือหุ้นที่ยังมีชีวิตอยู่ตามส่วนที่ตกลงไว้
ง. อำนวยความสะดวกในด้านการกู้ยืม กรมธรรม์ประกันชีวิตสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมได้เมื่อผู้เอาประกัน ทำประกันได้ 2 หรือ 3 ปีไปแล้ว เป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจที่จะกู้ยืมเงินมาลงทุน
จ. อำนวยความสะดวกในด้านการขาย ในการขายสินค้าแบบสินเชื่อหรือวิธีผ่อนชำระ ลูกค้าอาจเสียชีวิตก่อนที่จะได้ชำระหนี้เสร็จสิ้น ถ้าผู้ซื้อมีการประกันชีวิตไว้ไม่ต่ำกว่าวงเงินที่ให้สินเชื่อและโอนผลประโยชน์ในกรมธรรม์ให้แก่ผู้ขายก็จะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่การขาย (การประกันที่นำมาใช้สำหรับกรณีนี้เรียกว่า "การประกันชำระหนี้")
ฉ. เป็นสวัสดิการลูกจ้าง การเสียชีวิตของลูกจ้างในบางกรณีก็มิได้สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่นายจ้าง แต่นายจ้างควรจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของลูกจ้างตามสมควร นอกจากนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ลูกจ้าง อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน นายจ้างควรมีสวัสดิการอื่นๆ เท่าที่จะทำได้แม้จะอยู่นอกข้อบังคับกฎหมาย เช่น ค่า รักษาพยาบาลเมื่อลูกจ้างเจ็บป่วย บำเหน็จบำนาญในยามปลดเกษียณ เป็นต้น กรณีเหล่านี้การประกันชีวิตแบบกลุ่มชั่วระยะ เวลาหรือการประกันแบบสะสมทรัพย์สามารถสนองตอบวัตถุประสงค์ของนายจ้างได้
ประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ สถาบันสังคมเกิดจากบุคคลและครอบครัว หากบุคคลและครอบครัวมีความมั่นคงก็จะก่อให้เกิดเสถียรภาพทางสังคมและ เศรษฐกิจด้วย การประกันชีวิตเป็นการระดมเงินออมระยะยาวที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนทั้งในภาครัฐบาล และภาคเอกชน ก่อให้เกิดการสร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม
ก. ช่วยสะสมทุนเพื่อพัฒนาประเทศ ธุรกิจประกันชีวิตเป็นรูปแบบการระดมทุนภายในประเทศอย่างหนึ่ง กล่าวคือ เงิน เบี้ยประกันที่ผู้เอาประกันได้ชำระให้แก่บริษัทเป็นเงินฝากในระยะยาวเมื่อนำมารวมกันแล้วก็จะเป็นเงินก้อนใหญ่ สามารถให้รัฐบาลหรือเอกชนกู้ยืมไปลงทุนได้
ข. ช่วยปลูกฝังนิสัยการประหยัด การประกันชีวิตทำให้ประชาชนสนใจในการเก็บออม ไม่สุรุ่ยสุร่ายเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อ
ค. ช่วยเสริมสร้างความสงบสุขในสังคม การประกันชีวิตช่วยส่งเสริมให้บุคคลมีความรับผิดชอบต่อตนเอง เมื่อประสบกับการ ทุพพลภาพก็ได้รับค่าชดใช้หรือเบี้ยเลี้ยงชีวิต เมื่อถึงวัยชราก็มีเงินจำนวนหนึ่งไว้เลี้ยงดูตนเอง หรือเมื่อเสียชีวิตก็มีเงินสำหรับ ครอบครัวไว้แก้ปัญหาต่างๆ ผลก็คือช่วยให้สังคมโดยทั่วไป มีหลักประกันและช่วยแบ่งเบางานด้านประชาสงเคราะห์ของรัฐบาล |